วิเคราะห์ ฟุตบอลยูโร 2024 สเปน vs เยอรมนี หนึ่งในบิ๊กแมตช์ของ 2 ทีมที่ได้แชมป์ยูโรมากที่สุด เยอรมนี วันศุกร์ที่ 5 กรกฎาคม 2567 คู่เอกเปิดหัวรอบ 8 ทีมสุดท้ายถือเป็น “รีแมตช์” นัดชิงเมื่อปี 2008 ระหว่าง สเปน พบกับ เยอรมนี ชาติเจ้าภาพ วิเคราะห์บอลว่าจะออกหน้าไหน?
สเปน VS เยอรมนี : พรีวิว ฟุตบอล ยูโร 2024
- รายการ : ฟุตบอล ยูโร 2024 รอบ 8 ทีมสุดท้าย
- แมตช์การแข่งขัน : สเปน พบ เยอรมนี
- วัน/เวลาแข่งขัน : วันศุกร์ที่ 5 กรกฎาคม 2567 เวลา 23.00 น.
- สนาม : เมอร์ซิเดส เบนซ์ อารีนา, สตุ๊ตการ์ท ประเทศเยอรมนี
- ถ่ายทอดสด : True Premier Football 3 , PPTV HD36
ฟุตบอลยูโร 2024 เดินทางมาถึงรอบ 8 ทีมสุดท้าย คู่บิ๊กแมตช์ของรายการ เป็นการพบกันระหว่าง ทีมชาติสเปน พบ ทีมชาติเยอรมัน ถือเป็นคู่เอกในทัวร์นาเมนต์นี้เลยทีเดียว สิ่งที่น่าเสียดายก็คือพวกเขาโคจรมาพบกันเร็วไปหน่อย ที่จริงคู่นี้น่าจะเป็นคู่ชิงในฝันของแฟนบอลหลายๆคน แต่อย่างไรก็ตามในเกมนี้เราจะได้เห็นเกมฟุตบอลระดับคุณภาพคับแก้วอย่างแน่นอน สเปนของ หลุยส์ เด ลา ฟวนเต้ ยังคงเป็นทีมเดียวในศึกยูโรหนนี้ที่ทำสถิติชนะรวดแบบ 100 เปอร์เซนต์และเสียเพียงประตูเดียวเท่านั้น ส่วนเจ้าภาพเยอรมนีก็ยังไม่แพ้ใครเช่นกันแต่เป็นการสะดุดเสมอ 1 เกมในนัดที่พบกับสวิตเซอร์แลนด์
โปรแกรมการแข่งขัน ฟุตบอลยูโร 2024 รอบ 8 ทีมสุดท้าย ทีมชาติสเปน จะมีขึ้นในวันศุกร์ที่ 5 กรกฎาคม เวลา 23.00 น. ตามเวลาประเทศไทย ที่สนาม เมอร์ซิเดส เบนซ์ อารีนา, สตุ๊ตการ์ท ประเทศเยอรมนี ถ่ายทอดสดที่ช่อง True Premier Football 3 ความพร้อมของทีมและผลการแข่งขันจะเป็นอย่างไร ไปติดตามบทวิเคราะห์กัน
สภาพความพร้อม สเปน
ทัพ “กระทิงดุ” ทำผลงานในศีกยูโร 2024 ได้อย่างร้อนแรงอย่างมาก รอบแรกคว้าชัยทั้ง 3 นัดรวด เก็บ 9 แต้มเต็ม คว้าแชมป์กลุ่ม B ส่วนในรอบ 16 ทีมสุดท้าย ก็มาระเบิดฟอร์มอีก เมื่อไล่ถล่ม จอร์เจีย ไปแบบขาดลอย 4-1 ผ่านเข้ามาเตะในรอบนี้ แบบไม่มีปัญหา
ความพร้อมในการทำศึกนัดนี้ ค่อนข้างสมบูรณ์เลยทีเดียว ไม่มีรายงานนักเตะบาดเจ็บเพิ่มเติม แถม นาโช่ เฟร์นานเดซ และ อโยเซ่ เปเรซ ก็ฟิตสมบูรณ์แล้ว พร้อมเป็นตัวเลือกในการจัดทัพ ส่วนบรรดาตัวหลักคนอื่นๆ พร้อมลงฟาดแข้งทุกตำแหน่ง
คาดว่า หลุยส์ เดอ ลา ฟวนเต้ กุนซือของทีมจะยึดนักเตะชุดเดิมเป็นหลัก แนวรุกมี อัลบาโร่ โมราต้า เป็นกองหน้าตัวเป้า ขนาบข้างด้วย สองดาวรุ่ง อย่าง ยามีน ลามาล และ นิโก้ วิลเลียมส์ ส่วนแผงกองกลางจะให้ เปดรี้ และ โรดรี้ คอยขับเคลื่อนเกม ขณะที่แนวรับมี ดานี่ การ์บาฆาล กับ อายเมอริก ลาปอร์กต์ เป็นแกนหลัก
สภาพความพร้อม เยอรมนี
ขุนพล “อินทรีเหล็ก” ทีมเจ้าภาพ เป็นอีกหนึ่งทีมเต็ง ที่โชว์ฟอร์มได้อย่างยอดเยี่ยม โดยในรอบแรก ชนะ 2 เสมอ 1 เก็บไป 7 แต้ม คว้าแชมป์กลุ่ม A ส่วน ส่วนรอบ 16 ทีมสุดท้าย ก็ยังฮอตต่อเนื่อง ทุบชนะทีมแกร่งอย่าง เดนมาร์ก มาได้ 2-0
สภาพทีมในการลงเตะแมตช์นี้ ทีมมีข่าวดี เมื่อ โจนาธาน ทาห์ เซนเตอร์แบ็กตัวหลัก พ้นโทษแบน กลับมาลงสนามช่วยทีมได้แล้ว ส่วนบรรดาตัวหลักคนอื่นๆ ไม่มีรายงานอาการบาดเจ็บ สามารถจัดชุดใหญ่ลงบู๊ได้ทุกตำแหน่ง
เกมนี้ ยูเลียน นาเกลส์มันน์ เทรนเนอร์ของทีม จะจัดทัพด้วยการให้ ไค ฮาแวร์ตซ์ ยืนเป็นหัวหอกตัวเป้า และมี จามาล มูเซียล่า กับ ฟลอเรียน เวียร์ทซ์ เป็นตัวรุก ส่วนแผงกลาง จะมี อิลคาย กุนโดกัน กับ โทนี่ โครส คอยขับเคลื่อนเกม ด้านแผงหลัง โจนาธาน ทาห์ จะลงมายืนเซนเตอร์คู่กับ อันโตนิโอ รูดิเกอร์
ความน่าสนใจในเกมนี้
นี่คือการเจอกันของสองทีมยักษ์ใหญ่แห่งยุโรปที่มีประวัติศาสตร์ยาวนานในการแข่งขันฟุตบอล สเปนมาในฐานะแชมป์กลุ่มรอบ 16 ทีมสุดท้ายก็ถล่มเอาชนะจอร์เจีย ขาดลอย 4-1 ด้วยฟอร์มที่ยอดเยี่ยม โดยเฉพาะเกมรุกที่ดุดัน ขณะที่เยอรมนีเองก็เช่นกันที่ผ่าน้ขารอบในฐานะแชมป์กลุ่มและชนะเดนมาร์ก รอบ 16 ทีม 2-0 ฟอร์มภาพรวมก็โหดไม่แพ้สเปนเช่นกัน เรียกได้ว่าเป็นการมาเจอกันด้วยฟอร์มที่ดีมากทั้งคู่เพียงแต่แอบเสียดายที่เจอกันเร็วไปนิดคู่นี้ว่ากันตามผลงานมีสิทธิ์เขาชิงทั้งคู่หรืออย่างน้อย ๆ ต้องรอบรองชนะเลิศ ทั้งคู่มีความสมดุลย์ที่ใกล้เคียงกันทั้งเกมรับและรุก น่าจะสนุกสูสีกันพอสมควร ส่วนตัวผู้เขียนคิดว่าเกมนี้น่าจะเสมอในเวลา 90 นาที จนไปถึงขั้นต่อเวลาลุ้นยิงจุดโทษได้เลย แต่ถ้าหากจะมีใครชนะช่วงต่อเวลาพิเศษขอมองไปที่เจ้าภาพเยอรมนีในแง่บัพเจ้าภาพบวกประสบการณ์ของนักเตะและโค๊ชน่าจะผ่านได้แบบเฉือน