ข่าวกีฬาวันนี้ : “โบกมือลา” แกเร็ธ เซาธ์เกต ปิดฉาก 8 ปี 102 เกม ลาเก้าอี้กุนซือ “อังกฤษ” หลังล่าสุดเขาตัดสินใจลาออกจากตำแหน่งไปเมื่อวันที่ 16 กรกฎาคม ที่ผ่านมา
ข่าวกีฬาวันนี้ : แกเร็ธ เซาธ์เกต กุนซือ อังกฤษ ประกาศลาออก เรียบร้อยแล้ว หลังปราชัยรอบชิงชนะเลิศ ศึกฟุตบอล ยูโร 2 สมัยติดต่อกัน
สุดท้ายก็จบลงที่ 8 ปี สำหรับช่วงเวลาที่ แกเร็ธ เซาธ์เกต ได้เป็นผู้จัดการทีมชาติอังกฤษ หลังล่าสุดเขาตัดสินใจลาออกจากตำแหน่งไปเมื่อวันที่ 16 กรกฎาคม ที่ผ่านมา ซึ่งเราจะมาย้อนดูเกร็ดเกี่ยวกับผลงานของเขาในช่วงเวลาเหล่านั้นกัน
“เดอะ ทรี ไลออนส์” แพ้ สเปน 1-2 ที่กรุงเบอร์ลิน ประเทศเยอรมนี สุดสัปดาห์ที่ผ่านมา (14 ก.ค.) หลังดวลจุดโทษพ่าย อิตาลี ที่เวมบลีย์ เมื่อปี 2021 (ยูโร 2020)
เซาธ์เกต วัย 53 ปี คุมทีมนาน 8 ปี รวม 102 เกม โดยสัญญาฉบับปัจจุบันจะสิ้นสุดลงปลายปี 2024
เซาธ์เกต กล่าว “ในฐานะคนอังกฤษที่มีความภูมิใจ นับเป็นเกียรติครั้งหนึ่งของชีวิตที่ได้ลงเล่นและคุมทีมชาติอังกฤษ มันมีความหมายอย่างยิ่งสำหรับผม และผมทุ่มเทจนสุดความสามารถ แต่มันถึงเวลาต้องเปลี่ยนแปลง และการเริ่มต้นใหม่” ข่าวกีฬาวันนี้ :
อดีตกองหลัง แอสตัน วิลลา และ มิดเดิลสโบรห์ เป็นกุนซือคนเดียว นอกจาก เซอร์ อัลฟ์ แรมซีย์ กุนซือชุดแชมป์โลก 1966 ซึ่งพา “สิงโตคำราม” เข้ารอบชิงชนะเลิศระดับเมเจอร์
เซาธ์เกต คุม อังกฤษ 4 ทัวร์นาเมนต์เมเจอร์ โดยเข้ารอบรองชนะเลิศ และ รอบก่อนรองชนะเลิศ ปี 2018 และ 2022 ตามลำดับ ข่าวกีฬาวันนี้ :
ความกดดันต่อ เซาธ์เกต เพิ่มขึ้นมหาศาล เนื่องจากองเชียร์ส่วนมาก ตั้งข้อสงสัยเกี่ยวกับการเค้นประสิทธิภาพขุมกำลังแนวรุกอันน่าเกรงขาม
แฟนบอลส่วนหนึ่ง ขว้างถ้วยพลาสติกใส่ เซาธ์เกต หลังเสมอ สโลวีเนีย 0-0 การันตีเข้ารอบน็อกเอาท์ แต่ยังได้รับการสนับสนุนทำหน้าที่ต่อ ด้วยผลงานรองแชมป์ทวีป 2 สมัยติด
ผลงานที่ผ่านมาที่ แกเร็ธ เซาธ์เกต ได้คุม อังกฤษ
– จำนวนนัดและการชนะ
เซาธ์เกต ได้คุม อังกฤษ ลงเล่นไปทั้งหมด 102 นัด ทำให้เขาถือเป็นกุนซือ อังกฤษ ที่ได้นำทีมลงสนามมากที่สุดเป็นอันดับ 3 รองจาก เซอร์ วอลเตอร์ วินเทอร์บ็อตท่อม กับ เซอร์ อัลฟ์ แรมซี่ย์ ที่ทำไป 139 เกมกับ 113 นัด ตามลำดับ
ในจำนวน 102 เกมที่ว่านั้น จบลงที่การชนะ 61 เกม, เสมอ 24 นัด และแพ้ 17 หน ส่งผลให้ถ้าคิดเป็นเปอร์เซ็นต์การชนะแล้วนั้น เซาธ์เกต พาทีมชนะไป 59.8% ซึ่งถ้าดูเฉพาะคนที่เคยคุม อังกฤษ อย่างน้อย 40 เกมแล้วล่ะก็ เขาก็คือคนที่มีเปอร์เซ็นต์พาทีมชนะมากสุดเป็นอันดับ 4
– ชนะรอบน็อกเอาต์
หากนับรวมการดวลจุดโทษเข้าไปด้วยแล้วล่ะก็ เซาธ์เกต ก็พาทีมชนะรอบน็อกเอาต์ในทัวร์นาเมนต์ระดับเมเจอร์ได้ถึง 9 นัด ซึ่งเรียกได้ว่ามากกว่าจำนวนชัยชนะรอบน็อกเอาต์รวมกันของกุนซือถาวรของ อังกฤษ 12 คนก่อนหน้าเขาซะอีก ในกรณีที่นับตั้งแต่ปี 1966 เป็นต้นมา
– ลูกทีม
เซาธ์เกต ใช้งานนักเตะ อังกฤษ ไปทั้งหมด 99 คนตลอดช่วง 8 ปีที่ผ่านมา โดยในจำนวนนั้นมีนักเตะที่ได้ประเดิมสนามกับ อังกฤษ มากถึง 66 ราย เริ่มจาก เจสซี่ ลินการ์ด จนมาจบที่ จาร์ราด แบรนธ์เวต กับ อดัม วอร์ตัน
ทั้งนี้ นักเตะที่ได้ลงเล่นให้ อังกฤษ ในยุคของ เซาธ์เกต มากที่สุดคือ แฮร์รี่ เคน จากจำนวน 81 นัด ตามมาด้วย ไคล์ วอล์คเกอร์ ที่จำนวน 70 เกม ส่วนอันดับ 3 คือ จอห์น สโตนส์ กับ จอร์แดน พิคฟอร์ด ที่จำนวน 68 นัดเท่ากัน ขณะที่อันดับ 5 คือ แฮร์รี่ แม็กไกวร์ จากการได้ลงเล่นไป 63 นัด
ส่วนคนที่ทำประตูได้เยอะที่สุดแน่นอนว่าหนีไม่พ้น เคน ที่กดไป 61 ประตูด้วยกัน รองลงมาคือ ราฮีม สเตอร์ลิง ที่ทำไป 18 ลูก ขณะที่อันดับ 3 ตกเป็นของ มาร์คัส แรชฟอร์ด จากจำนวน 16 ประตู
– คู่แข่ง
เซาธ์เกต ได้โอกาสเผชิญหน้ากับทีมคู่แข่งรวมแล้ว 44 ชาติ ซึ่งทีมที่เขาต้องดวลด้วยบ่อยที่สุดคือ อิตาลี ที่จำนวน 6 เกม ส่วนอันดับ 2 คือ เบลเยีย กับ เยอรมนี ที่จำนวน 5 นัดเท่ากัน โดยกับ “อัซซูรี่” เขาเอาชนะได้ 2 ครั้ง, เสมอ 3 หน และแพ้ 1 เกม ขณะที่กับ “ปีศาจแดงแห่งยุโรป” เขาชนะแค่หนเดียว, เสมอ 1 นัด และแพ้ถึง 3 รอบ ส่วนกับ “อินทรีเหล็ก” เขาพาทีมชนะได้แค่ 1 เกมเช่นกัน ส่วนที่เหลือประกอบด้วยการเสมอ 3 หนกับแพ้ 1 นัด
จากคู่แข่งทั้งหมด 44 รายนั้น เซาธ์เกต เคยคว่ำได้ถึง 42 ชาติเลยทีเดียว ซึ่ง 2 ทีมที่เขาไม่เคยเอาชนะได้เลยคือ บราซิล กับ ฝรั่งเศส โดยกับ บราซิล เป็นการเสมอกับแพ้อย่างละ 1 นัด ส่วนกับ ฝรั่งเศส เขาแพ้ทั้ง 2 หนที่เผชิญหน้ากับอีกฝ่าย
ทั้งนี้ มีทั้งหมด 24 ชาติด้วยกันที่ เซาธ์เกต มีเปอร์เซ็นต์ชนะในการเจอกับทีมเหล่านั้นแบบ 100 เปอร์เซ็นต์เต็ม โดยคู่แข่งที่เขาชนะทางมากที่สุดคือ มอลต้า ที่เจ้าตัวนำทีมเจอกับอีกฝ่าย 4 ครั้งและชนะได้ทั้งหมด โดยหากเอาสกอร์จาก 4 เกมที่ว่ามารวมกันก็อยู่ที่ 12-0 เลย
– แฮตทริก
มีทั้งหมด 7 ครั้งด้วยกันที่ อังกฤษ ในยุคของ เซาธ์เกต มีนักเตะที่ทำแฮตทริกได้ โดยในจำนวนนั้นเป็นของ เคน ไปถึง 5 ครั้ง ประกอบด้วยเกม ฟุตบอลโลก 2018 รอบแบ่งกลุ่มที่ชนะ ปานามา 6-1, ยูโร 2020 รอบคัดเลือกนัเที่ชนะ บัลแกเรีย 4-0, ยูโร 2020 รอบคัดเลือก นัดไล่ต้อน มอนเตเนโกร 7-0, ฟุตบอลโลก 2022 รอบคัดเลือก นัดชนะ อัลแบเนีย 5-0 และเกม ฟุตบอลโลก 2022 รอบคัดเลือก วันที่ถล่ม ซาน มารีโน่ 10-0 ส่วนอีก 2 คนที่ทำแฮตทริกได้คือ ราฮีม สเตอร์ลิง ในวันที่ชนะ เช็ก 5-0 ในศึก ยูโร 2020 รอบคัดเลือก กับ บูกาโย่ ซาก้า ในเกม ยูโร 2024 รอบคัดเลือก นัดถล่ม มาซิโดเนีย เหนือ 7-0 ข่าวกีฬษวันนี้
– เฮสุดและเละสุด
ข่าวกีฬษวันนี้ : ชัยชนะที่ขาดลอยที่สุดของ อังกฤษ ยุคของ เซาธ์เกต ก็คือเกม ฟุตบอลโลก 2022 รอบคัดเลือก วันที่ชนะ ซาน มารีโน่ 10-0 นั่นเอง
ส่วนคู่แข่งที่ยัดเยียดความปราชัยที่ขาดลอยที่สุดให้กับทีมของ เซาธ์เกต ได้นั้น อาจจะทำให้หลายคนแปลกใจ เพราะทีมนั้นคือ ฮังการี ที่เคยบุกไปชนะ อังกฤษ 4-0 ได้ถึงสนาม โมลินิวซ์ ในศึก ยูฟ่า เนชั่นส์ ลีก เมื่อช่วงเดือนมิถุนายน ปี 2022
-แกเร็ธ เซาธ์เกต กล่าวไว้
“นักเตะที่เราเลือกไปเยอรมนี เต็มไปด้วยนักเตะหนุ่มพรสวรรค์สูง และพวกเขาสามารถคว้าแชมป์ที่ทุกคนรอคอย เรามีแฟนๆ ที่ดีสุดของโลก และเสียงเชียร์ของพวกเขาเปรียบราวกับโลกทั้งใบของผม ผมเป็นแฟน อังกฤษ คนหนึ่ง และจะเป็นเช่นนั้นตลอดไป”
“ผมเฝ้ารอติดตามและฉลองทุกๆ ย่างก้าวที่นักเตะเหล่านั้นสร้างความทรงจำอันสวยงามกว่า หล่อหลอมและสร้างแรงบันดาลใจแก่คนทั้งประเทศ เนื่องจากเรารู้ว่าพวกเขาทำได้ ขอขอบคุณ อังกฤษ สำหรับทุกอย่าง” เซาธ์เกต ทิ้งท้าย
ข่าวกีฬาวันนี้ : 707Jili – 77Jilislotสล็อต-77jiliasia บริการทั้งหมดบน สล็อตเว็บตรง 100%
สล็อตเว็บตรง ฝาก-ถอน true wallet ไม่มีขั้นต่ำ จะสะดวก ปลอดภัย และไม่ยุ่งยาก